“ฝน – ศนันธฉัตร ธนพัฒน์ไพศาล” เผยตกลงใจเดินเส้นทางดาราหนังอิสระ อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆและก็ทำความเข้าใจมากขึ้น รับหัวใจยุ่ง เล่าเรียนดูใจหนุ่มนอกแวดวง ยังไม่เปิดตัว
ภายหลังหมดสัญญากับอดีตกาลสังกัดเดิมอย่างที่นาดาวฯ นักสดงสาวไซส์ไม่นิ ฝน – ศนันธฉัตร ธนพัฒน์ไพศาล ก็มูฟออนผันตัวเป็นดาราหนังอิสระ ได้โอกาสได้พบเจ้าตัวก็เลยอัปเดตถึงหัวข้อนี้ รวมถึงเรื่องหัวใจที่แว่วในตอนนี้มีคนจองเป็นระเบียบแล้ว
เรื่องความรักเป็นไงบ้าง?
“ก็มีบ้างอะไรบ้าง ก็คุยๆกันอยู่ประมาณนึง รู้จักกันอยู่ แต่ว่าไม่ได้เผยอะไร ไม่มีรูป (หัวเราะ)”
มุมมองความรักคราวนี้เปลี่ยนไปจากเดิมไหม โตขึ้นไหม?
“คือเราก็เป็นเราอย่างเดิม มีความรู้สึกมีโมเมนต์ที่เราถูกใจ เวลาเรามีคนใหม่เข้ามาเราก็ไม่ได้ไปนั่งเปรียบเทียบว่าเมื่อไหร่เป็นยังไง คือเรารู้สึกแฮปปี้ก็พอ ก็เป็นคนภายนอกแวดวงจ้ะ หนูไม่เคยคบคนภายในแวดวงเลย ถามคำถามว่าจะเปิดตัวไหม ก็ไม่ได้มีแพลุกลนว่าจะเผยไหมเผย ไม่ได้ตั้งใจไว้จ้ะ มันแล้วแต่ฟีลว่าถ้าวันนึงเราแฮปปี้ที่เราอยากจะให้ทุกคนรับทราบ เราก็บางทีก็อาจจะแบบมีอะไรให้ดูกัน”
เขากลัวโดนจับตามองไหม เผื่อมีคนใดกันไปเปิดวาร์ปเขา
“ไม่น่าพบนะ คงจะยาก ไม่ได้ทำงานในแวดวงด้วย ก็มีมนุษย์หลายร้อยล้านคนเห็นทีจะเสิร์ชกันอ่อนล้าเลย เขาเป็นเพื่อนของสหายจ้ะ อายุใกล้ๆกัน ถามคำถามว่าคลิ๊กหรือตรงสเปกอย่างไรเหรอขา ปกติถ้าจะคุยกับคนใดกันจำต้องรู้จักกันก่อน จะเกลียดชังให้คนเดินเข้ามาจีบแบบไม่เคยรู้กันเลย ก็จะไม่คุย มันก็เลยรู้อยู่แล้วว่าคนใดกัน เป็นยังไง มันค่อยเพิ่มเลเวลกันไป”
ยังเป็นหนุ่มตี๋อย่างเดิม?
“จริงๆไม่ได้ถูกใจหนุ่มตี๋นะ ดูดีก็โอเคหมดล่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้มีสเปกจ้ะ”
เป็นดาราหนังอิสระแล้ว เป็นไงบ้าง?
“ดีจ้ะ แต่ว่าก็เป็นตอนๆปรับตัวนิดหน่อยเพราะเป็นตอนๆเดือนกว่า ยังไม่ค่อยเคยชินเยอะแค่ไหน คือจริงๆในตอนที่อยู่ที่นาดาวทั้งหมดทุกอย่างก็แฮปปี้มาก เพราะพี่ๆทุกคนให้เราทำทั้งหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ได้จำกัดว่าเฉพาะงานนี้ รวมทั้งได้โอกาสได้ตกลงใจร่วมกันกับพี่ๆคณะทำงานอยู่แล้ว แต่ว่าเนื่องจากว่าอยู่มา 9 ปีแล้ว จากมัธยมจนกระทั่งเรียนจบแล้ว ก็คิดว่าเราโตมากๆแล้ว แต่ว่ายังไม่เคยรู้ตัวเองดีพอ เลยบอกกับพี่ๆที่นาดาว ขอคำปรึกษาหน่อยว่าฝนอยากออกมาทำความเข้าใจอะไรมากขึ้น อยากค้นหาตัวเองมากขึ้น ราวกับเราอยู่ในเซฟโซนคือทุกคนดูแลเราดีมาก โอ๋มาก แต่ว่ามีหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ ทำไม่เป็น ยังจำต้องฝึกหัดอีกมากๆเลย งั้นขอออกมาทำความเข้าใจอะไรใหม่ๆดีมากกว่าจ้ะ”
พอออกมางานที่เรารับเลือกมาขึ้นแค่ไหน?
“คือบางทีก็อาจจะด้วย 2 ปีให้หลังมันเป็นตอนๆโควิด ก็ไม่ค่อยได้ทำงานอยู่แล้ว ในตอนนี้พอกลับมาปุ๊ปมันก็มีงานที่มากมายขึ้นเพราะโปรดักชั่นต่างๆเขาก็กลั้นกันมานาน งานก็เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปกติเวลาจะรับงานก็ขอดูบทก่อน เพราะเราก็ไม่เคยรู้ว่าบทนี้เหมาะกับเราไหม สหายๆร่วมงานเป็นคนใดกันบ้าง ก็ดูแบบความเคมี ถ้าคิดว่าน่าระทึกใจเราก็รับ”
ได้ตกลงใจเองมากขึ้น?
“ก็จำต้องละเอียดมากขึ้น เพราะปกติพี่ๆดูแลละเอียดมาก ช่วยแสกกลางนบทมาก่อน อ่านบรีพมาให้ แต่ว่าพอมารับเองเราก็เช็คเพื่อความเชื่อมั่น จำต้องละเอียดขึ้นเพราะไม่ได้มีคนคัดกรองมาก่อนแล้ว”
งานที่อยากรับควรเป็นอย่างไรบ้าง ดาราหนัง นักร้อง?
“ให้หนูไปร้องหรอขา ร้องได้นะคะ แต่ว่าฟังได้ไหมก่อน (หัวเราะ) คือคาแร็กเตอร์มันก็จะโตขึ้น มันก็มีงานที่โตขึ้นเข้ามา เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ปรับตัว เป็นเรื่องยากเช่นเดียวกันเพราะคนก็จะเคยชินว่าเรามีภาพลักษณ์ประมาณนี้ตลอดระยะเวลาหลายๆปีให้หลัง พอมาจำต้องก้าวกระโดดก็จะมีคนที่ไม่รู้เรื่องหรือยังไม่อิน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะจำต้องทำให้เขาเชื่อให้ได้”
อย่างเสียงเล็กๆของเรามีปัญหาไหม?
“เราก็จำต้องตั้งสติเวลาทำงาน ร ล กล่าวช้าๆเวลาเราทำงานก็จะติดภาษาวัยรุ่นมีคำสร้อย มีคำเป็นพิษ ซึ่งพอบทมันก็จะค่อนข้างขมักเขม้นเป็นทางการหรือเข้ากับพี่ๆรุ่นใหญ่เราก็จำต้องตั้งสติจูนก่อน อย่าเอาคำที่เราใช้ประจำไปใช้ในงานอะไรอย่างนี้”
สรีระเรา ตัวเล็กมีปัญหาไหม?
“มีแต่ว่าทักว่าอย่าอ้วนนะ เพราะเข้ากล้องถ่ายภาพและขยายตัว พี่ๆคณะทำงานก็จะพูดว่าโควิดเนี่ยอ้วนขึ้นหรือไม่ ไม่อ้วนขึ้นจ้ะ ปลอดภัยหายห่วง”
ดูเด็กตลอดระยะเวลาจะก้าวผ่านอย่างไร?
“นับว่าเป็นคำยกย่องจ้ะ เดี๋ยวแก่ขึ้นก็ค่อยรับงานแก่ขึ้นก็ได้ (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็ยังแฮปปี้อยู่จ้ะ ก็ยังมีงานใหม่ๆเข้ามา ก็มีงานที่ยังไม่ได้แถลงข่าว ถ้าได้ดูก็คงตื่นเต้นกัน”